Saturday, July 23, 2011

・Shanghai ・ Two

เก็บของเรียบร้อย เราก็ไปเดินเที่ยวกันค่ะ
เริ่มจากอาหารมื้อแรกของเราที่ร้านอาหารใกล้ๆโรงแรม
วิธีสั่งนี่ก็ใช้จิ้มๆเอาเลยค่ะ จริงๆแล้วเจ้าของบล๊อกก็พอจะพูดจีนได้อยู่บ้าง แต่ที่ไม่พูดก็เพราะกลัวคอมโบกลับมาชุดใหญ่ค่ะ คือพูดได้ ฟังได้เป็นคำๆ แต่ถ้ามาแบบเป็นประโยคเนี่ย เกิด dead air แน่ๆค่ะ

จากการจิ้มๆของเราก็ได้อาหารมา 3 ชนิด คือเกี๊ยวซ่าทอด ปาท่องโก๋บิ๊กเบิ้มพร้อมน้ำจิ้มรสหวานๆเย็นๆ แล้วก็เส้นเล็กผัดค่ะ เมนูนี้อร่อยดี เสียแต่มันไปนิด แล้วก็แอบตะขิดตะขวงใจว่าเนื้อที่เค้าใส่มามันเนื้ออะไรกันน้า มันนิ่มกว่าปกติ แต่ก็คิดว่าไม่ถามดีกว่า เพราะไม่ค่อยอยากเซอร์ไพรส์เท่าไหร่ ฮ่า..





ทานเสร็จแล้วก็ชมเมืองเรื่อยเปื่อยกันค่ะ ผ่านย่านนึงที่ขายผ้า กับผ้าลูกไม้สวยๆเยอะเลยค่ะ ราคาก็ไม่แพงด้วยค่ะ แอบถามมา ผ้าคอตต้อนเมตรละไม่เกิน 80 บาท





เดินไปเรื่อยๆจนไปถึงสวนอี้หยวนค่ะ ซึ่งกว่าจะเข้าถึงบริเวณสวนได้ก็งงๆกันอยู่พักใหญ่เหมือนกัน เพราะว่ารอบๆสวนจะเป็นร้านขายของเยอะเลยค่ะ ของที่ขายส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกของฝาก สำหรับนักท่องเที่ยวค่ะ พอเราฝ่าด่านร้านขายของไปได้แล้ว ก็จะเจอทางเข้าสวนค่ะ ค่าเข้า 30 หยวน สวนนี้ก็เป็นการตกแต่งแบบจีนแท้เลยค่ะ

สวนนี้สร้างโดยขุนนางจีนในราชวงศ์หมิงชื่อผานหยุนต้วน ใช้เวลาก่อสร้างนาน18ปีคือราวปีพศ.2102-2120 เพื่อให้เป็นที่พำนักบั้นปลายชีวิตของพ่อแม่ แต่รู้สึกว่าพ่อแม่จะเสียชีวิตไปก่อนสร้างเสร็จนะคะ เมื่อเวลาผ่านไปสวนนี้ก็ได้รับผลกระทบหลายอย่าง มีการทำลาย แล้วก็มีการบูรณะต่อเติมมาตลอด 400 ปี ในปีพศ.2303 มีคหบดีผุ้ร่ำรวยได้ซื้อสวนนี้และใช้เวลา กว่า 20 ปีในการปรับปรุง ในช่วงสงครามฝิ่นสวนนี้ถูกทำลายอีกครั้ง จนกระทั่งปีพ.ศ.2499 จึงเริ่มมีการบูรณะใหม่ กระทั่งเปิดให้บริการสาธารณะชนเข้าชมในเดือนกันยายน พ.ศ.2504




ที่ชอบอย่างนึงคือสิงโตหินที่เป็นชายหญิงคู่กันน่ะค่ะ สิงโตตัวเมียปกติเค้าจะเลี้ยงลูกใช่มั้ยคะ ตรงทางเข้าลูกสิงโตก็จะเป็นสิงโตแบเบาะค่ะ พอเราเดินไปเรื่อยๆ ลูกเค้าก็โตขึ้นเรื่อยๆค่ะ คุณพ่อสิงโตตอนแรกก็จะขรึมๆหน่อย มองไปข้างหน้าตรงๆ พอตอนลูกโตขึ้น คุณพ่อก็เริ่มหันมามองด้วยสายตาเอ็นดู (อันนี้คิดไปเองรึเปล่าไม่รู้ :D)





ใช้เวลาอยู่ในสวนอยู่พอสมควร ก็ออกมาพักกินเสี่ยวหลงเปาด้านนอกสวนกันค่ะ




ร้านนี้ไกด์บุคหลายเล่มแนะนำ รสชาติใช้ได้ค่ะ แต่เราว่าที่ร้านเกี๊ยวจีนอร่อยกว่า แหะๆ
ไว้เดี๋ยวจะมารีวิวให้ดูกันในเอนทรี่ต่อๆไปนะคะ

ว่าแล้วก็เดินกลับมาทางเดิมเพื่อที่จะไปชมวิว The Bund กัน
ระหว่างทางก็แวะซื้อแตงโม ที่นี่เค้าจะผ่าแตงโมเป็นเสี้ยว เอาเปลือกออก แล้วก็เสียบไม้ให้เรา
แตงโมลูกใหญ่มาก แต่ไม่หวานเลย :b







เดินมาจนถึง The Bund เราก็รู้สึกเหมือนอยู่ในหนังเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ขึ้นมา
The Bund นี้อยู่ริมฝั่งแม่น้ำหวงผู่ มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ซึ่งในอดีตบริเวณนี้เป็นท่าเรือจีนที่ใช้ติดต่อค้าขายกับต่างชาติ แต่ในความสวยงาม เบื้องหลังมันก็คือการสะท้อนภาพการกดขี่จากชาวตะวันตก เพราะคนจีนต้องถูกเกณฑ์มาเป็นแรงงานในการสร้าง เมื่อสร้างเสร็จ บริเวณนี้ก็เป็นที่อยู่ของชาวตะวันตก และห้ามคนจีน และหมาเข้าซะงั้น พูดแล้วชักจะขึ้น ฮ่าๆ ชมวิวกันต่อดีกว่า




ถ้าเรามองไปยังฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำหวงผู่ ก็จะเจอตึกสูงตระการตาเพียบเลยค่ะ ฝั่งนั้นเป็นฝั่งเมืองใหม่ เดี๋ยวเราจะข้ามไปฝั่งนั้นกันค่ะ เดินไปเรื่อยๆจนเกือบจะถึงรูปปั้นของ Chen Yi ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีคนแรกของเมืองเซี่ยงไฮ้ เราก็จะพบกับอุโมง ให้เดินลงไปเลย เพราะเราจะข้ามฝั่งแม่น้ำโดยใช้บริการ The Bund Sightseeing Tunnel กัน

การข้ามฝั่งแม่น้ำมีอยู่ 2 วิธีค่ะ คือการนั่งเรือข้ามฟาก ราคา 2 หยวน กับการข้ามทางอุโมงนี้ ซึ่งพี่สาวเจ้าของบล๊อกบอกว่าเลือกทางนี้เถิด เค้ามีแสงไฟเลเซอร์ปิ้วป้าวตระการตาสนนราคา 50 หยวนต่อเที่ยว เจ้าของบล๊อกก็เออออห่อหมกไปด้วย แต่เอิ่มมมม.... ระยะทางแสงไฟเลเซอร์ของพี่ท่านดูหลอกเด็กมากมาย จนชักจะอยากได้ 50 หยวนคืน แง...




ไหนๆก็ข้ามฝั่งมาแล้ว กิจกรรมต่อไปก็คือการขึ้นหอไข่มุกค่ะ หอไข่มุก หรือ Oriental Pearl Tower เป็นหอส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์สูง 468 เมตร นับเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในเอเชียและสูงเป็นอันดับ 3 รองจากแคนาดาและรัสเซีย

เราเลือกซื้อแพคเกจแบบที่มี Dinner buffet ด้วย ราคา 298 หยวน เพื่อที่จะได้นั่งพักชมวิวกันยาวๆ บุฟเฟต์ที่นี่เปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็น ยาวไปถึง 3 ทุ่มเลยค่ะ ก่อนขึ้นตึกจะต้องสแกนกระเป๋า ใครที่พกของเหลวมาต้องทิ้งนะจ๊ะ ซึ่งตอนที่ขึ้นไปทานอาหารนี่มันชวนปวดใจมาก เพราะราคาเครื่องดื่มข้างบนนี่แพงมหากาฬเลยทีเดียว โค้กซีโร่ กระป๋องละ 50 หยวน น้ำแร่เอเวียงขวดใหญ่ 80 หยวน
เรียกว่าต้องสั่งมาแค่พอจิบๆกันอาหารติดคอเท่านั้น





จุดเด่นอีกอย่างของร้านอาหารที่นี่คือพื้นเค้าจะหมุน 360 องศาเลย ทำให้เราได้เห็นวิวได้ครบ แต่ก็หมุนช้าๆนะคะ ไม่งั้นคงอ้วก ระดับความเร็วก็ประมาณ.. เจ้าของบล๊อกนั่งอยู่เกือบ 3 ชั่วโมง ก็ได้เห็นวิวประมาณ 1 รอบครึ่งน่ะค่ะ

อาหารด้านบนพอใช้ค่ะ มีทั้งหมด 3 ไลน์ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจีน ทานเสร็จแล้ว ลงมาชั้นล่าง จะมีจุดชมวิวพื้นใส ให้คนใจกล้าเข้าไปถ่ายรูปเล่น เจ้าของบล๊อกไม่ไหวจริงๆค่ะ มองลงไปทีนี่หมดแรง แต่เห็นเด็กๆชอบกันม้ากกกก วิ่งเล่น กระโดด กระทืบกันน่าดู






ลงมาปั๊บ เราก็หารถกลับบ้านกันค่ะ แต่ taxi เค้าเรียกราคาเราโหดไปหน่อย เลยเปลี่ยนใจนั่งรถไฟกลับ ซึ่งระหว่างทางก็ได้ไปเจอแฟนคลับพี่บี้ ที่พอรู้ว่าเราเป็นคนไทยปั๊บ เธอก็ทั้งร้องทั้งเต้นไม่หยุดเลยค่ะ น่าประทับใจแทนพี่บอยมาก ฮ่าๆ น่าเสียดายที่เรานั่งแค่ป้ายเดียว เลยไม่มีโอกาสได้คุยอะไรกันเยอะ จริงๆแล้วเธอก็ไม่เปิดโอกาสด้วยแหละ ถามชื่อ ถาม e-mail ไป ก็จะร้องแต่เพลงพี่บี้อย่างเดียว




วันแรกจบแล้วค่ะ ตามไปเที่ยวกันต่อในเอนทรี่ถัดไปนะจ๊ะ :)

ป.ล. อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่เจ้าของบล๊อกแลกเงิน (จาก Super Rich) ไป 1 หยวน ราคา 4.72 บาทนะจ๊ะ

1 comment:

  1. เพิ่งรู้ว่าตัวเองก็มี account ไว้ว่างๆสอนสร้าง blog หน่อยเส่~

    ReplyDelete